สูตรรูเล็ตออนไลน์ เล่นยังไงให้บวกยาว ๆ

            ขึ้นชื่อว่า “รูเล็ตออนไลน์” เกมที่ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาแห่งคาสิโนนั้น หลายคนคงท้อจนเลิกเล่นกันมาแล้ว เพราะคิดว่าการจะเอาชนะด้วยการทาย 37 หมายเลขให้ถูกนั้นมันเป็นเรื่องง่าย แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้วถ้าเรารู้วิธีชนะหรือใช้ สูตรรูเล็ต เล่นเป็น มันก็จะไม่ยากอีกต่อไป และวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับสูตรรูเล็ตออนไลน์ เล่นยังไงให้บวกยาว ๆ กันครับ

รู้จักความเสี่ยงก่อนเล่นรูเล็ต

            รูเล็ต ก็เป็นเหมือนกับเกมพนันอื่น ๆ ที่มีระดับความเสี่ยงอยู่ในตัว เพียงแต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยใส่ใจมัน คิดว่าแค่วางเดิมพันง่าย ๆ ก็ได้แล้ว เพราะมีรูปแบบการวางเดิมพันที่หลากหลาย ไม่ต้องคิดเยอะ ขอแค่ทำตามแล้วได้ผลก็โอเค สุดท้ายส่วนใหญ่ก็จะหมดตัวกันทุกคน

ด้วยรูปแบบการวางเดิมพันที่มีมากกว่าเกมพนันอื่น ๆ พอจะแบ่งระดับความเสี่ยงของรูเล็ตออกได้ 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ กลุ่มความเสี่ยงสูง กับกลุ่มความเสี่ยงต่ำ วิธีดูก็ไม่ยาก แค่มองที่อัตราจ่ายก็พอ ยิ่งจ่ายมากหรือเดิมพันช่องไหนที่ให้กำไรดี ตั้งแต่ 5 – 35 เท่า หมายความว่าช่องนั้นมีโอกาสน้อยมากที่เราจะชนะ เขาถึงกล้าให้ แต่ถ้าช่องไหนที่จ่ายน้อย ไม่น่าเล่น สักเท่าสองเท่าแบบนี้ แสดงว่ามันมีโอกาสมากที่เราจะชนะ เพราะคาสิโนเสียเปรียบมากเลยต้องจ่ายให้น้อยนั่นเอง

ทีนี้เราจะมาดูกันว่าเล่นรูเล็ตแบบไหนให้ความเสี่ยงต่ำกันครับ

• ดำ – แดง โอกาสแพ้ชนะจะอยู่ที่ 50/50 อัตราจ่ายก็เลยอยู่ที่แทง 1 จ่าย 1 ไม่รวมทุน วิธีเล่นก็ง่าย ๆ แค่ทายสีที่ลูกบอลจะหยุดให้ถูกก็พอ
• คู่ – คี่ โอกาสแพ้ชนะและอัตราจ่ายเท่ากับการเล่น ดำ-แดง วิธีเล่นต่างกันแค่เปลี่ยนจากสีมาเป็นทายเลขคู่หรือเลขคี่ก็พอ ถ้าทายถูกก็จะได้กำไรกลับมา แต่ว่าการแทงนี้จะไม่นับเลข 0 หรือ 00
• สูง – ต่ำ ในรูเล็ตจะแบ่งหมายเลขออกเป็น 2 กลุ่มคือ เลข 1-18 อยู่กลุ่มเลขต่ำ ส่วนเลข 19-36 อยู่เลขสูง เลข 0 หรือ 00 ไม่อยู่กลุ่มไหนทั้งนั้น ถ้าเราทายถูกว่าลูกบอลจะไปหยุดที่กลุ่มเลขไหนก็จะชนะทันที อัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 1 ไม่รวมทุนเหมือนกัน โอกาสชนะอยู่ที่ 50%
• เต็งแถว หรือที่เรียกว่าแทงยกแถว ในรูเล็ตจะแบ่งหมายเลขออกเป็น 3 แถว คือ 1st, 2nd และ 3rd ถ้ารางวัลออกในแถวที่เราทายไว้ ก็จะได้รับอัตราจ่าย แทง 1 จ่าย 2 ไม่รวมทุน
• เต็งโซน อันนี้จะคล้ายกับการแทงยกแถว แต่กลุ่มตัวเลขจะเปลี่ยนไป โดยมีอยู่ 3 โซนคือ 1st, 2nd และ 3rd โซนละ 12 หมายเลข อัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 2 ไม่รวมทุน

ส่วนรูเล็ตที่มีความเสี่ยงสูงก็จะมีดังนี้

• เต็งเลข คือการทายไปที่เลขใดเลขหนึ่ง ในแต่ละรอบจะแทงกี่เลขก็ได้ตั้งแต่ 0-36 อัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 35 ไม่รวมทุน
• ค่อม 2 เลข คือการแทงพร้อมกัน 2 หมายเลขที่อยู่ติดกันบนโต๊ะรูเล็ต ถ้าออกเลขใดเลขหนึ่งจะได้รับอัตราจ่าย แทง 1 จ่าย 17 ไม่รวมทุน
• ค่อม 3 เลข คือการแทงพร้อมกัน 3 หมายเลขที่อยู่ในแถวเดียวกัน ถ้าชนะก็จะได้รับอัตราจ่าย แทง 1 จ่าย 11 ไม่รวมทุน
• ค่อม 4 เลข จะคล้ายกับการแทงค่อม 2 เลข แต่จะเป็น 4 หมายเลขที่อยู่ติดกันแทน โดยจะต้องอยู่ติดกันในลักษณะของสี่เหลี่ยมจัตุรัสเท่านั้น อัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 8 ไม่รวมทุน
• ค่อม 6 เลข เป็นการแทงพร้อมกัน 2 แถวที่อยู่ติดกัน ซึ่งจะมีอยู่ทั้งหมด 6 หมายเลข อัตราจ่ายเมื่อชนะคือ แทง 1 จ่าย 5 ไม่รวมทุน

สูตรรูเล็ต ที่ใช้เล่นกันมากที่สุด

สูตรรูเล็ตที่นิยมใช้กันส่วนใหญ่ก็คือสูตรเดินเงินนั่นเอง ซึ่งหลักการของมันคือการทำให้เรามีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงในการขาดทุน และยังช่วยดึงเงินที่เสียไปกลับคืนมาพร้อมกำไรได้อีกด้วย สูตรที่ใช้กันก็จะมีตั้งแต่สูตรเดินเงิน 1324, สูตรเดินเงินลาบูเซอร์, สูตรเดินเงินอัตราเพิ่มคงที่, และสูตรเดินเงิน Martingale ซึ่งในที่นี้เราจะมาแนะนำการใช้ Super Martingale และ Wining Martingale กันว่ามันต่างจาก Martingale ธรรมดาตรงไหน

แต่ก่อนที่จะไปเข้าสูตร เราจะต้องแบ่งเงินทุนที่มีทั้งหมดเป็นหน่วยลงทุนเสียก่อน เช่น มีเงินอยู่ 1,000 อาจแบ่งตามขั้นต่ำของโต๊ะ ถ้าเล่นโต๊ะที่เริ่มต้น 10 บาท ก็จะได้ 100 หน่วย ถ้าเล่นโต๊ะ 100 บาทก็จะได้ 10 หน่วย แต่การแบ่งหน่วยลงทุนต้องระวังเรื่องการแทงทบด้วย เพราะทุกโต๊ะจะมีขั้นสูงสุดกำหนดไว้ หากตั้งให้หน่วยสูงเกินไปจะทำให้ทบไม่ได้หรือเล่นไม่ครบไม้ จะทำให้มีโอกาสเสียเดิมพันมากกว่าได้กำไร

สูตรเดินเงิน Super Martingale

สูตรนี้พัฒนามาจากสูตรมาร์ติงเกล จะมีจุดที่เหมือนกันก็คือวางเดิมพันเพิ่มทุกครั้งที่แพ้ แต่ยอดเดิมพันจะต่างกันตรงที่ Super Martingale จะทบเป็นสองเท่าและเพิ่มเข้าไปอีก 1 หน่วย เนื่องจากสูตรมาร์ติงเกลนั้นดึงกำไรคืนมาได้แค่หน่วยเดียว แต่สูตรนี้ดึงกำไรกลับคืนมาทุกตาที่เสียไป เท่ากับย้อนเวลาไปชนะนั่นเอง ส่วนวิธีใช้สูตรมีดังนี้

• หากชนะเดิมพัน ให้วางเดิมพัน 1 หน่วยไปจนกว่าจะแพ้
• หากแพ้ รอบต่อไปให้วางเดิมพันเป็นสองเท่าและบวกเข้าไปอีก 1 หน่วย เช่น รอบแรกวาง 1 หน่วย แพ้ รอบที่สองวาง 3 หน่วย ถ้าแพ้อีกรอบต่อไปก็วาง 7 หน่วย ถ้าเล่นสเต็ป 5 ไม้ก็จะได้ 1, 3, 7, 15, 31

แม้ว่า Super Martingale จะสามารถย้อนเวลากลับไปชนะได้ แต่ว่าผู้ใช้ก็ต้องมีทุนที่สูงพอตัวอยู่เหมือนกัน เพราะแค่สเต็ป 5 ไม้ หากต้องเล่นยาวถึง 5 รอบ จะต้องใช้ทุนทั้งหมด 57 หน่วย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยก็ควรมีอย่างน้อย 100 หน่วยเพื่อกันความเสี่ยงที่ว่าทุนหมดก่อนได้คืน สูตรนี้ก็เลยไม่เหมาะกับคนทุนน้อยหรือคนที่ไม่ค่อยชอบเสี่ยงเท่าไหร่

สูตรเดินเงิน Winning Martingale

สูตรนี้ต้องบอกเลยว่าถูกใจคนทุนน้อยมาก ๆ หลักการของมันจะตรงข้ามกับ Martingale และ Super Martingale ตรงที่จะเป็นการแทงทบเมื่อชนะ โดยเงินที่ใช้ในการทบก็มาจากกำไรที่เล่นได้ในรอบก่อนหน้า วิธีการใช้สูตรก็คือ

• หากชนะ ให้ทบเดิมพันเข้าไป เช่น รอบแรกวาง 1 หน่วย ชนะก็วางเป็น 2 หน่วย ถ้าชนะอีกในรอบต่อไปก็เพิ่มเป็น 4 หน่วย
• ถ้าแพ้ ให้กลับไปวางที่ 1 หน่วยใหม่

การจะทำกำไรด้วย Winning Martingale จำเป็นต้องกำหนดกำไรที่ต้องการให้ชัดเจนก่อนว่าจะเอากี่บาท เพราะถ้าเล่นด้วยอัตราจ่าย แทง 1 จ่าย 1 อย่างพวก สูง-ต่ำ, ดำ-แดง, คู่-คี่ กำไรจะหายไปหมดทันทีที่เราแพ้ ยกเว้นจะเล่นกับอัตราจ่ายที่สูงกว่านี้

อย่างไรก็ตามถ้าอยากใช้สูตรรูเล็ตให้ได้ผลกันมากกว่าเดิมต้องเพิ่มสูตรนี้เข้าไปด้วยครับ นั่นก็คือ เสียให้เลิก ได้ให้พอ วางเป้าหมายให้ชัดเจนแล้วเล่นตามแผน เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ได้กำไรกันแบบยั่งยืน รวยด้วยรูเล็ตกันแล้วล่ะครับ