รูเล็ต ถือได้ว่าเป็นเกมพนันที่ต้องมีให้เล่นกันทุกคาสิโน ซึ่งมันไม่ได้มีดีแค่ความคลาสสิค แต่เพราะว่ามันเป็นหนึ่งในเกมพนันที่มีรูปแบบการวางเดิมพันที่หลากหลาย อัตราจ่ายหลายแบบ นักเดิมพันสามารถเลือกความเสี่ยงได้ด้วยตัวเอง ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเป็นเกมพนันที่ทำกำไรกันไม่ได้ง่าย ๆ นั่นก็เพราะว่าคนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจเรื่องการเล่นรูเล็ตแบบวงนอกวงในซึ่งเป็นหัวใจของเกมนี้กันครับ เราจะไปดูกันว่าเรื่องนี้สำคัญยังไงแล้วทำไมต้องรู้ด้วย
ถ้าให้พูดถึงวิธีเล่นรูเล็ต คนส่วนใหญ่จะบอกว่าแค่วางเดิมพันเข้าไปตามที่ต้องการ อยากแทงอะไรก็แทงไปตามใจชอบ ถ้าดวงดีก็จะถูกรางวัลซึ่งมันก็ถูกเพียงแค่ครึ่งเดียว เพราะการจะทำกำไรให้ได้จริงนั้น เราต้องรู้จักวิธีเล่นรูเล็ตด้วย ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ วงนอก กับวงใน
รูเล็ตวงนอก เป็นรูปแบบการเล่นที่เน้นความเสี่ยงต่ำ มีโอกาสทำกำไรได้มาก โอกาสชนะสูงกว่ารูเล็ตวงใน แต่มีข้อเสียตรงที่กำไรที่ได้จะค่อนข้างน้อย ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา การเล่นรูเล็ตในรูปแบบนี้จึงเหมาะกับคนที่มีทุนไม่มาก หรืออยากได้ความมั่นคงแน่นอน แต่ก็ใช่ว่าคนทุนหนาจะเล่นไม่ได้ เพียงแค่ต้องเพิ่มทุนเข้าไปเพื่อให้มีโอกาสได้กำไรมากขึ้นเท่านั้นเอง ส่วนวิธีการเล่นก็มีดังนี้
แถวที่ 1 (1st) ได้แก่หมายเลข 1, 4, 7, 10, 13, 16, 19, 22, 25, 28, 31, 34
แถวที่ 2 (2nd) ได้แก่หมายเลข 2, 5, 8, 11, 14, 17, 20, 23, 26, 29, 32, 35
แถวที่ 3 (3rd) ได้แก่หมายเลข 3, 6, 9, 12, 15, 18, 21, 24, 27, 30, 33, 36
วิธีการเล่นก็แค่ทายว่าลูกบอลจะออกในแถวไหน หากตกหมายเลขที่อยู่ในแถวที่แทงก็ถือว่าชนะ จะได้รับกำไร 2 เท่าของทุน
โซนที่ 1 (1st) ได้แก่หมายเลข 1-12
โซนที่ 2 (2nd) ได้แก่หมายเลข 13-24
โซนที่ 3 (3rd) ได้แก่หมายเลข 25-36
สำหรับวิธีวางเดิมพันแค่ทายว่ารางวัลจะออกหมายเลขในโซนไหน หากลูกบอลหยุดที่หมายเลขในโซนที่เราทาย ก็ถือว่าชนะ จะได้กำไร 2 เท่าของทุน หากรูเล็ตออก 0 ก็จะไม่ได้รับรางวัล
รู้จักวงนอกกันไปแล้ว ก็ได้เวลามารู้จักกับรูเล็ตวงในกันบ้าง ซึ่งเป็นรูปแบบการเล่นที่ให้ผลตอบแทนตรงกันข้ามกับวงนอก คือ มีอัตราจ่ายที่สูงกว่า แต่โอกาสชนะจะมีน้อยกว่า ความเสี่ยงสูงกว่า จึงเหมาะกับคนที่ต้องการทำกำไรในระยะสั้น เพราะให้กำไรสูงมาก และถ้าเอาไปใช้ร่วมกับสูตรเดินเงินแล้วล่ะก็จะทำให้การปั่นกำไรมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีเล่นก็มีดังนี้
หลายคนอาจเคยได้ยินสูตรเดินเงินบาคาร่ามาบ้าง แต่ยังไม่เคยได้ยินสูตรเดินเงินรูเล็ต คงสงสัยว่ามันเป็นของจริงไหม น่าเชื่อถือแค่ไหน บอกได้เลยว่ามันคือสูตรเดียวกันครับ ไม่ว่าจะเป็น Martingale, 1324, เดลองเบ, ลาบูเซอร์, พาโรลี หรืออื่น ๆ อีกมากมาย หากใช้กับบาคาร่าได้ สามารถเอามาใช้กับรูเล็ตได้ 100% เช่นกัน
ซึ่งสูตรเหล่านี้ไม่ได้มีไว้เพิ่มโอกาสชนะแต่อย่างใด มันมีไว้เพิ่มโอกาสทำกำไร รวมไปถึงแก้เกมเวลาที่เราเล่นเสียก็ใช้ถอนทุนได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าสถานการณ์ไหนจะใช้สูตรอะไร นอกจากนี้มันยังทำให้การลงทุนของเรามีความเสี่ยงต่ำอีกด้วย ในที่นี้ผมจะพาไปรู้จักกับสูตรที่นักเดิมพันนิยมใช้กัน 2 สูตร นั่นก็คือ Martingale กับ 1324 ครับ
ต้องเรียกว่านี่คือสูตรแรกที่ทุกคนต้องเคยได้ใช้แน่นอน ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม บางคนอาจเคยได้ยินชื่อสูตรแทงทบ สูตร 5 ไม้ หรืออะไรทำนองนี้มาก่อน นั่นแหละครับมันคือสูตรเดียวกัน เพราะวิธีใช้มันก็คือทบเดิมพันเข้าไปเป็นจำนวน 5 รอบ
หลักการสำคัญของมาร์ติงเกลคือเราจะต้องวางเดิมพันเป็นสองเท่าทุกครั้งที่มีแพ้ หากชนะก็ถือว่าจบสูตร กลับไปเริ่มต้นรอบใหม่ได้เลย ซึ่งสูตรนี้มีข้อดีตรงที่หากเราชนะมันจะช่วยดึงเงินที่เสียไปกลับคืนมาทั้งหมด พร้อมกับให้กำไรอีก 1 หน่วย ยกตัวอย่างเช่น
รอบที่ 1 แทง 10 บาท แพ้
รอบที่ 2 แทง 20 บาท แพ้
รอบที่ 3 แทง 40 บาท แพ้
รอบที่ 4 แทง 80 บาท แพ้
รอบที่ 5 แทง 160 บาท ชนะ ได้กำไรกลับมา 160 บาท
เมื่อเอากำไรที่ได้ในรอบที่ 5 มาหักทุนในรอบที่ 1-4 (10+20+40+80 = 150) เราจะเหลือกำไร 10 บาท จะเห็นได้ว่าสูตรนี้หัวใจสำคัญของมันไม่ได้อยู่ที่การทำกำไร เพียงแต่อยู่ที่การถอนทุนคืน ซึ่งการทบเดิมพันจำเป็นต้องมีเงินทุนที่เยอะมาก จากตัวอย่าง เริ่มต้นเสียแค่ 10 บาท ถ้าจะเอาคืนในรอบที่ 5 จะต้องมีทุนติดกระเป๋าอย่างน้อย 310 บาท ไม่เช่นนั้นอาจเกิดตัวแตกก่อนได้ทุนคืนแน่ แต่ถ้าจะให้ดีก็มีสัก 1,000 บาท สำหรับการเล่นโต๊ะที่มีขั้นต่ำ 10 บาท จะโอเคที่สุดครับ
ดังนั้นการจะใช้สูตรนี้ก็ต้องคิดกันให้ดีว่าพร้อมที่จะเสี่ยงหรือไม่ เพราะถ้าพลาดไม่สามารถเรียกคืนมาได้ใน 5 รอบจะทำให้เราเสียเงินก้อนโตได้ ถามว่าทบมากกว่านี้ได้หรือไม่ ก็ได้เหมือนกัน ตราบใดที่ยังไม่เกิดยอดเดิมพันสูงสุดที่โต๊ะกำหนดไว้ แต่ถ้าใครที่คิดจะทำกำไรอยากให้ลืมสูตรนี้ไปเลย แล้วไปดูสูตรต่อไปที่ผมจะพูดถึงครับ
เมื่อมาร์ติงเกลมีไว้ถอนทุนคืนกลับมา สูตรเดินเงิน 1324 จึงเป็นสูตรที่เน้นทำกำไรอย่างแท้จริง โดยเฉพาะคนที่มีทุนน้อยก็ใช้ได้ คนทุนหนาก็ใช้ดี เพราะวางเดิมพันแล้วเอาชนะให้ได้ 4 รอบติดต่อกัน ก็ทำกำไรได้มากถึง 10 เท่า เดี๋ยวผมจะทำให้ดูกันครับว่า มันทำได้อย่างไร ทำได้จริงหรือ
รอบที่ 1 วางเดิมพัน 10 บาท ชนะ เล่นรอบต่อไป
รอบที่ 2 วางเดิมพัน 30 บาท โดยเอาทุนกับกำไรในรอบแรกมาลงแล้วเพิ่มทุนเข้าไปอีก 10 บาท หนนี้ก็ชนะอีก ไปต่อกันเลย
รอบที่ 3 วางเดิมพัน 20 บาท รอบนี้ลดลงมาหน่อย แต่เราใช้กำไรที่ได้จากรอบ 1+2 มาเล่นแค่ 20 บาท เหลืออีก 20 เก็บไว้ในกระเป๋า โชคดียังชนะอีก ไปรอบสุดท้ายได้เลย
รอบที่ 4 เอากำไรที่ได้จากรอบ 1-3 จำนวน 60 บาท วางเดิมพันไป 40 บาท เหลืออยู่ 20 รอบนี้ก็ยังชนะ เท่ากับว่าเราได้กำไรมาทั้งหมด 10+30+20+40 = 100 บาท จากทุนเพียงแค่ 10 บาทในรอบแรก
จะเห็นได้ว่าสูตรนี้แค่เอาชนะสองรอบแรกได้ ตั้งแต่รอบที่ 3 เป็นต้นไปต่อให้แพ้ก็เหลือกำไรกลับไปอยู่ดี ถือได้ว่าเป็นสูตรที่เสถียรมาก ๆ แต่ถ้าใครที่อยากจะมีโอกาสชนะและทำกำไรได้มากว่านี้ อาจต้องใช้วิธีอ่านเค้าไพ่เข้ามาช่วยด้วย แล้วหาจังหวะเข้าให้ดี เพราะถ้าเข้าถูกจังหวะโอกาสที่สูตรจะติดมีสูงมาก ๆ ดังนั้นใจเย็นไว้ค่อยเป็นค่อยไป
อย่างไรก็ตามไม่ว่าสูตรไหนจะดียังไง แต่ถ้าคนใช้ปล่อยให้มีอารมณ์ร่วมไปกับการวางเดิมพัน เสียแล้วหัวร้อน หรือยิ่งได้ยิ่งคึก อันนี้มีแต่เสียกับเสีย แนะนำว่าได้ให้เลิก เสียให้พอ เล่นตามแผนที่วางไว้ มีเป้าหมายชัดเจนว่าจะใช้ทุนทั้งหมดกี่บาท เล่นเสียได้แค่ไหน ได้กำไรเท่าไหร่ถึงจะพอ แล้วก็ทำตามอย่างเคร่งครัด หากเป้าหมายไหนถึงก่อนก็ให้หยุด เช่น เล่นเสียครบแล้วแต่เงินยังเหลือก็ให้เลิก อย่าไปหวังเอาคืน หรือถ้าได้กำไรครบแล้วก็พอ จำไว้ว่าต่อให้ดวงดีมือขึ้นแค่ไหน แต่ในระยะยาวก็ไม่มีใครสามารถเอาชนะคาสิโนออนไลน์ได้อยู่ดี ถ้าชนะใจตัวเองได้ ยังไงก็กำไรชัวร์อยู่แล้ว